Author Archives: Sikares Pholhem

หินปูนเป็นอันตรายต่อสุขภาพฟัน มารู้จักพร้อมวิธีหลีกเลี่ยงคราบหินปูน

หินปูนเป็นอันตรายต่อสุขภาพฟัน มารู้จักพร้อมวิธีหลีกเลี่ยงคราบหินปูน

ฟันของเราเป็นสิ่งที่เราไม่ควรละเลย เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพฟัน โรคเหงือก และความมั่นใจตามมา เราจึงต้องดูแลฟันเป็นอย่างดี พยายามไม่ให้เกิดคราบหินปูนที่อาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุในอนาคต ด้วยการดูแลทำความสะอาดฟัน และการดูแลช่องปากให้ถูกวิธี คุณคิดว่าดูแลฟันดีแล้วหรือยัง? เข้าใจเรื่องหินปูนแค่ไหน? ถ้าไม่แน่ใจเรามาเตรียมพร้อมการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไปด้วยกัน

 

หินปูน วายร้ายทำลายฟัน เกิดขึ้นจากอะไร

หินปูน หรือ คราบจุลินทรีย์ หรือ หินน้ำลาย มีลักษณะเป็นคราบแข็งสีเหลืองอมน้ำตาลจนถึงสีดำ เกิดขึ้นมาจากการสะสมของแบคทีเรีย หรือ “ไบโอฟิล์ม” โปรตีน และเศษอาหาร เมื่อปล่อยทิ้งไว้คราบเหล่านี้จะเกิดการรวมตัวกันเป็นคราบเหนียว ๆ ที่เรียกว่า “คราบพลัค” ขึ้นมา พอปล่อยไว้นาน ๆ คราบพลัคจะเกิดการสะสมและรวมตัวกับแร่ธาตุและน้ำลายจนแข็งตัวขึ้นมาเกาะอยู่ตามซอกฟัน แม้ว่าเราจะพยายามแปรงฟันดีมากแค่ไหนแต่เจ้าแบคทีเรียก็จะยึดติดอย่างเหนียวแน่นทำให้เราไม่สามารถแปรงออกได้ต้องให้ทันตแพทย์เป็นคนขูดออกเท่านั้น

คราบหินปูน ส่งผลต่อสุขภาพฟันอย่างคาดไม่ถึง

เราคงเคยได้ยินว่า ถ้าไม่แปรงฟันระวังฟันผุนะ! แล้วฟันผุเกิดขึ้นได้อย่างไร ความจริงแล้วฟันผุเกิดจากที่แบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามหินปูนได้ปล่อยสารที่เป็นกรดออกปกคลุมผิวฟันของคุณ เมื่อเราขจัดไบโอฟิล์มออกจากฟันไม่หมด หรือมีการแปรงฟันไม่สะอาดจนทำให้เกิดการสะสมของไบโอฟิล์มจนนำไปปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปากมีกลิ่นเหม็น เหงือกร่น หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่การกร่อนทำลายกระดูกรองฟันจนทำให้ฟันไม่แข็งแรง และต้องถอนฟันไปในที่สุด

 

วิธีดูแลทำความสะอาดฟัน ไม่ให้เกิดคราบหินปูน  

  1. ควรทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นานครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 วินาที ถ้าอยากให้การแปรงฟันได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แนะนำให้แปรงครั้งละประมาณ 2 นาที เพื่อให้สามารถทำความสะอาดฟันได้ทั่วช่องปากมากที่สุด

  2. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ หรือส่วนประกอบที่ช่วยปรับสภาพช่องปาก ลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก และลดการมีกลิ่นปากด้วย หากคุณมีอาการเสียวฟันร่วมด้วย ให้เลือกสูตรที่มีการลดอาการเสียวฟัน และลดการอักเสบของเหงือก

  3. ใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และการเกิดคราบหินปูน นอกจากนี้การใช้น้ำยาบ้วนปากยังช่วยลดการอักเสบของเหงือกได้ดี ลดกลิ่นปากทำให้คุณมั่นใจและรู้สึกสบายมากขึ้น

  4. ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน อย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อกำจัดไบโอฟิล์มที่ติดอยู่ตามซอกฟันให้ออกไปให้ได้มากที่สุด โดยเริ่มจากการสอดไหมขัดฟันไปตามซอกฟันแล้วขัดขึ้นลง จากนั้นขัดให้รอบฐานฟันอย่างเบามือ

  5. หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล รวมถึงเครื่องดื่มที่เป็นน้ำอัดลม หรือที่มีน้ำตาลสูง หากจำเป็นต้องกินให้แปรงฟันหลังดื่มน้ำหรือทานอาหารทุกครั้ง หากไม่สามารถแปรงฟันได้ให้บ้วนปากทำความสะอาดแทน

  6. งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่อาจทำให้เกิดคราบหินปูนมากขึ้น

  7. ควรเข้าไปพบทันตแพทย์เพื่อทำความสะอาดช่องปาก โดยการขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากเป็นไปได้ควรไปขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือนจะดีที่สุด ซึ่งเมื่อเราขูดหินปูนเสร็จใหม่ ๆ อาจทำให้เกิดการเสียวฟันขึ้นมาได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะอาการเสียวฟันเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำด้วยความใส่ใจโดยการเลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก จากมายบาซิน ที่ช่วยลดการเกิดคราบหินปูน ลดการสะสมแบคทีเรีย และลดกลิ่นปาก อย่าง มายบาซิน พีระมิด ซี ซอลท์,  มายบาซิน ยาสีฟัน หรือ น้ำยาบ้วนปาก สูตรฟ้าทะลายโจร และ มายบาซินน้ำยาบ้วนปาก สูตรกระชาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมดูแลสุขภาพช่องปากของทางมายบาซินโดยเฉพาะ  ควบคู่กับการเข้าพบทันตแพทย์ตามในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้สุขภาพช่องปากและฟันของคุณที่แข็งแรง

 

สามารถหาซื้อ มายบาซิน พีระมิด ซี ซอลท์,  มายบาซิน ยาสีฟัน หรือ น้ำยาบ้วนปาก สูตรฟ้าทะลายโจร และ มายบาซินน้ำยาบ้วนปาก สูตรกระชาย ได้แล้วที่ Big C, Tops, Gourmet Market, Foodland, CJ Express

 

#นวัตกรรมดูแลสุขภาพช่องปาก #เกร๊ทเตอร์มายบาซิน #greatermybacin #หินปูน #คราบหินปูน #ดูแลช่องปาก #คราบพลัค #ยาสีฟันเกลือพีระมิดซีซอลท์ #ยาสีฟันฟ้าทะลายโจร #น้ำยาบ้วนปากกระชาย

รู้จักกับ “กระชาย” ที่มีประโยชน์ มากกว่าเป็นสมุนไพรในครัว

กระชาย สมุนไพรไทยที่มีประโยชน์มากกว่าสมุนไพรในครัว ที่สามารถทั้งนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู และยังมีสรรพคุณคล้ายกับโสม ที่ใช้แก้โรคได้ตามตำรับยาไทยมากมาย เป็นสารสกัดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน และยังสามารถช่วยปกป้องสุขภาพในช่องปากได้ด้วย กระชาย จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่สืบทอดกันมาอย่างช้านานจากรุ่นสู่รุ่น วันนี้เราพามาทำความรู้จักกระชายให้มากขึ้นกันดีกว่า

“กระชาย” สมุนไพรสารพัดประโยชน์

กระชาย (Fingerroot) สมุนไพรไทยที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นเหง้าสั้น รากอวบปลายเรียว มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว กระชายมีประโยชน์ทุกส่วนทั้งราก ใบ เหง้า มีส่วนในการดูแลสุขภาพและการรักษาด้านแพทย์แผนไทย จนได้ชื่อว่าเป็น “โสมไทย” มีสรรพคุณทางยาตามตำรำแผนไทย ช่วยรักษาและบรรเทาอาการได้หลากหลาย

กระชายที่พบในไทยแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได่แก่ กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัส ทั้งยังมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย เช่น สารไพนีน (Pinene) แคมฟีน (Camphene) เมอร์ซีน (Myrcene) ไลโมนีน (Limonen) และการบูร (Camphor)เป็นต้น และยังมีสารสกัดสำคัญ คือ Kaempferol, Quercetin และ Panduratin A ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของกระชาย คือ ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูก ปรับสมดุลของฮอร์โมน บำรุงสมอง แก้อาการท้องร่วง แก้อาการปวดเมื่อย เป็นต้น ทั้งยังสามารถแก้โรคที่เกิดขึ้นภายในปากได้ เช่น ปากเปื่อย ปากแตก ปากแห้ง ปากเป็นแผล ทำความสะอาดช่องปาก และทำให้เหงือกและฟันแข็งแรง ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนจึงช่วยลดการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และยังช่วยในการบำลุงเลือดลม กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตอีกด้วย

กระชาย กับการรักษาโรคในช่องปาก

มีการศึกษาใหม่พบว่า สรรพคุณของกระชายยังช่วยในการรักษาฟันและดูแลช่องปากได้เป็นอย่างดี เพราะในกระชายมีสารสกัดที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย สามารถยับยั้งการเกิดคราบจุลินทรีย์หรือไบโอฟิล์มจากเชื้อทั้ง 4 ชนิด คือ สเตรปโตคอคัสมิวแตน (Streptococcus mutant), สเตรปโตคอคคัส แซงกินิส (Streptococcus sanguinis), สเตรปโตคอคคัส ไพโอจีนัส (Streptococcus pyogenes) และแอคติโนมัยซิส วิสโคซุส (Actinomyces viscosus) และยังมีสารที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อในช่องปาก (1) นอกจากนี้ ยังพบว่ากระชายสามารถช่วยลดการเกิดโรคปริทันต์ ลดอาการเหงือกบวม ช่วยลดเชื้อราในช่องปาก สามารถป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดกลิ่นปาก

ซึ่งกลิ่นปาก สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยหลากหลายปัจจัย อย่าง การสูบบุหรี่ เกิดคราบนิโคติน ฟันซ้อน ฟันเก ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง ฟันผุ เป็นแผลในช่องปาก โรคเหงือกอักเสบ แปรงฟันไม่สะอาดเศษอาหารจึงตกค้างอยู่ภายในช่องปาก เกิดการเน่าเสียจากเชื้อแบคทีเรีย

น้ำยาบ้วนปากกระชายดีอย่างไร?

เพราะน้ำยาบ้วนปาก มีลักษณะเป็นของเหลว หรือ เป็นน้ำ น้ำยาบ้วนปากจึงสามารถเข้าได้ทุกซอกของช่องปาก โดยเฉพาะน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากกระชาย สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกิดจากการกระตุ้นของไฟโบรบลาสต์บริเวณเหงือก ที่ทำให้เหงือกบวมจากเชื้อโรค จึงลดการเกิดเหงือกบวม ซึ่งเป็นโรคปริทันต์และลดเชื้อราในช่องปาก ที่สำคัญสารสกัดจากกระชายยังมีฤทธิ์ป้องกันฟันผุ* ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงลดกลิ่นปากได้มากถึง 70-90% จากการวัดด้วยเครื่องตรวจวัดกลิ่นลมหายใจ** และยังสามารถกำจัดเชื้อที่เป็นสามารถในการเกิดฟันได้อย่างรวดเร็ว การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของกระชายจึงช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ปัจจุบันการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เราควรใช้น้ำยาบ้วนปากควบคู่ไปด้วย เพื่อประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีมากยิ่งขึ้น และหากเป็นสมุนไพรจากกระชายสารสกัดเข้มข้นของมายบาซิน ที่มีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นปากและดูแลสุขภาพช่องปากได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความอ่อนโยน ไม่แสบร้อนช่องปาก สามารถใช้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ

มายบาซิน น้ำยาบ้วนปากกระชาย สามารถซื้อได้แล้ว ที่ Big C, Tops, Gourmet Market, Foodland, CJ Express

“มังคุด” ราชินีผลไม้ของไทย ที่มีประโยชน์มากกว่าแค่ผลไม้ธรรมดา

หากพูดถึงผลไม้ที่ขึ้นชื่อของไทย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น ผลไม้อย่าง “มังคุด” เป็นแน่แท้ เพราะมังคุดได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” (Queen of Fruits) อาจเป็นเพราะลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบบนหัวคล้าย ๆ กับมงกุฎของพระราชินี เป็นผลไม้ที่จัดว่ามีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของมังคุดไม่ได้อยู่แค่เนื้อที่เรานิยมรับประทานกันเท่านั้น เปลือกมังคุดก็มีประโยชน์มากมายในการรักษาโรคเช่นกัน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับมังคุดให้มากยิ่งขึ้นกัน

เจาะลึกความเป็นมาของ “มังคุด”

มังคุด (mangosteen) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana Linn. ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า มังคุดน่าจะมีปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว ด้วยจดหมายเหตุของทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาขอพระสงฆ์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้กล่าวถึงผลไม้ที่นำออกมารับรองคณะทูตโดยมีมังคุดเป็นหนึ่งในนั้น นอกจากมังคุด ยังเป็นอาหารแถมมีประโยชน์อื่น ๆ ให้กับคนทั่วโลกได้อีก อย่าง ชาวกานา นำมาเคี้ยวกิ่งแขนงของมังคุดเพื่อดับกลิ่นปาก, ชาวจีนใช้เปลือกมังคุดย้อมผ้าหรือหนังให้เป็นสีดำและยังนำเข้าเปลือกมังคุดแห้งไปบดเป็นผงใช้เป็นยาแก้บิดสกัดใส่ยาขี้ผึ้งใช้ทาแก้ผื่นแพ้ และ ต้มเปลือกผลมังคุดรักษาอาการท้องร่วงและทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือ แช่น้ำค้างคืนหรือทำเป็นชาชงเพื่อรักษาอาการท้องเสียเรื้อรัง, ชาวฟิลิปปินส์ใช้ใบและเปลือกต้มน้ำเพื่อรักษาอาการท้องเสีย บิด ถ่ายพยาธิ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และเชื่อว่ากินผลมังคุดจะควบคุมอาการไข้, ชาวอินโดนีเซียกินเปลือกไม้แก้บิด ต้มใบแห้งดื่มแก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง, ชาวมาเลเซีย ใช้ใบมังคุดชงผสมกล้วยดิบและใส่เบนโซอินเล็กน้อยสำหรับทาแผลที่ขลิบ ต้มรากดื่มเพื่อรักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติ ใช้เปลือกแก้บิด, ชาวบราซิลดื่มชามังคุดเชื่อว่ามังคุดจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายเป็นปกติ ส่วนคนไทยเองก็ใช้ประโยชน์จากมังคุดได้มากมายเช่นกัน อย่างเผาเนื้อไม้เป็นถ่านไว้ใช้เป็นเชื้อเพลิง และยังสามารถนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยโดยใช้เปลือกผลมังคุดตากแห้งเพื่อแก้ท้องเสีย แก้บิด และรักษาแผล

มังคุด กับ สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)

ในปัจจุบันมีงานวิจัยอยู่หลายชิ้นว่า “มังคุด” มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม มีสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่ามากกว่าวิตามินหลายเท่า สารชนิดนี้เรียกว่า “แซนโทน” (xanthone) ที่มีระดับที่สูงมาก จึงทำให้มังคุดมีสรรพคุณโดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ สามารถรักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง และหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก รวมทั้งสามารถต้านเชื้อไวรัสได้อีกด้วย

8 ประโยชน์ของสารแซนโทนในมังคุด

ช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก เพราะในเปลือกมังคุดมีสารแซนโทน (Xanthtoner) ที่ทางเภสัชวิทยาได้วิจัยและยอมรับว่ามีฤทธิ์ช่วยช่องปากได้หลากหลาย เช่น ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ ฤทธิ์ต้านเชื้อรา ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส และฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรที่รักษาช่องปากด้วย สามารถนำมาใช้เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากได้เช่นกัน โดยการนำเปลือกมังคุดมาต้มกับน้ำใช้อมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน เหงือกอักเสบ เหงือกบวม แผลในปาก เป็นต้น

ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหาร หนึ่งในผลกระทบของอายุที่เพิ่มมากขึ้น คือ การลดประสิทธิภาพของกรดในกระเพาะ และมีส่วนช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคท้องร่วง อาการจุกเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยระบบการย่อยอาหาร ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าสาร Xanthone สามารถฆ่าแบคทีเรียที่ไม่ดีเหล่านี้ได้ จึงช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารที่ดีขึ้นอีกด้วย

ป้องกันโรคหัวใจ โรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันเกิดจากเส้นเลือดบริเวณหัวใจขาดความยืดหยุ่น สาร Xanthone ช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งของเส้นเลือด พร้อมต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ เมื่อเส้นเลือดแข็งแรง จะทำให้อัตราการเกิดโรคหัวใจลดลง

ช่วยต่อสู้และยับยั้งเซลล์มะเร็ง จากผลวิจัยบ่งบอกว่า สารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ เซลล์ลูคีเมีย และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของการกระตุ้นมะเร็งเต้านม มะเร็งในตับ มะเร็งในกระเพาะอาหาร และมะเร็งในปอด

ช่วยต้านโรคติดต่อ ผลการวิจัย ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย พบว่าสารสกัดจากมังคุด (Xanthone) สามารถหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้

ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว อาการผิวเสียต่างๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ผิวเปื่อย พุพอง สิว โรคเรื้อน ผื่นแดง ตัวเปลือกในมังคุดสามารถรักษาโรคได้โดยวิธีธรรมดา อย่างการใช้ยา สเตลอรอยด์ และครีมต่างๆ แต่จากการนำสารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ไปประยุกต์ใช้รักษาโรคผิวหนังต่างๆ สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถรักษาโรคผิวหนังได้ โดยไม่มีอาการแพ้หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ

ช่วยป้องกันปัญหาทางสายตา โรคต้อหิน ต้อกระจก จากรังสีที่เข้ามาทำลายโปรตีนของเลนส์ในดวงตา ซึ่งสามารถป้องกันได้ ด้วยสารสกัดจากมังคุด (Xanthone)

ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ สารสกัดจากมังคุด (Xanthone) ได้ถูกนำมาทำเป็นยาต้านโรคไขข้ออักเสบและอาการอักเสบ และยังเป็นยาป้องกันโรคภูมิแพ้โดยไม่มีผลทำให้ง่วงนอน และผลข้างเคียงอื่นๆ

และปัจจุบันมังคุด นำมาแปรรูปในรูปแบบต่างๆ มากมาย ที่มีประโยชน์ในการดูเเลตัวเองของมนุษย์อย่างเราได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลช่องปากด้วยการสกัดสารจากเปลือกมังคุด และสมุนไพรอีก 14 ชนิด ของ มายบาซิน สเปรย์พ่นช่องปาก ที่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสในช่องปากและลำคอ ลดอาการอักเสบช่องปาก ระงับกลิ่นปาก บรรเทาอาการแผลในช่องปาก ลดอาการเหงือกอักเสบ บรรเทาอาการระคายคอ นอกจากนี้ยังไม่มีน้ำตาล แต่ใช้ Xylitol ไซลิทอล ให้ความหวานแทนน้ำตาล ทำให้ชุ่มคอ และไม่ก่อให้เกิดฟันผุ

มายบาซิน สเปรย์พ่นคอ สูตรสารสกัดจากเปลือกมังคุด (MyBacin With Mangosteen Extact Trospray) มีติดตัวไว้แล้วอุ่นใจ ดีต่อสุขภาพช่องปากคุณ…